ประเด็นร้อน

วสิษฐ เดชกุญชร ผู้ตงฉินข้ามยุคสมัย

โดย ACT โพสเมื่อ Jun 27,2018

- - ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า - -

 

คอลัมน์ ต่อต้านคอร์รัปชัน  : โดย รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค และดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค


ต่อตระกูล: เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ประเทศไทยได้สูญเสียปูชนียบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ไปท่านหนึ่ง นั่นคือ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ซึ่งถึงแก่อนิจกรรมหลังจากเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจมาสักระยะหนึ่ง สิริรวมอายุ 88 ปี ที่ผมกล่าวว่าท่านเป็นปูชนียบุคคลของชาติเนื่องมาจากคุณงามความดีที่ท่านได้สร้างตลอดชีวิต จนถึงช่วงสุดท้ายของท่าน และเราสามารถยืนยันคำกล่าวนี้ได้ผ่านสายตาและประสบการณ์จริงของทั้งคนถึงสองรุ่นสองสมัย ทั้งผมและต่อภัสสร์

 

บทบาทของคุณวสิษฐในฐานะตำรวจนั้นคงจะชัดเจนอยู่แล้วจากตำแหน่งของท่านที่เป็นอดีตรองอธิบดีตำรวจ แต่ตำแหน่งนี้เองก็ยังไม่โดดเด่นเท่าอีกตำแหน่งหนึ่งที่คนทั่วไปต่างยกย่องท่านว่าเป็น "ตำรวจตงฉิน" หรือตำรวจผู้ซื่อสัตย์ ซึ่งเราไม่ค่อยได้ยินใครได้รับยกย่องเช่นนี้บ่อยนัก ซึ่งความตงฉินนี้จึงนำพาให้ผมได้มีโอกาสร่วมงานกับท่านเมื่อปี พ.ศ.2552 ในคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนการทุจริตและประพฤติมิชอบในการบริหารราชการกรุงเทพมหานคร (ป.ป.ช.กทม.)ซึ่งผมได้เห็นความกล้าหาญของคุณวสิษฐในการยอมรับความเป็นจริงของหน่วยงาน โดยประกาศว่า "ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องยอมรับว่าการทุจริตมีอยู่ทุกหน่วยงานราชการ ไม่เว้นแม้แต่กรุงเทพมหานคร" และความคิดที่ก้าวหน้าในการใช้หลักการทำงานแบบสร้างความมีส่วนร่วมของประชาชนในการต่อต้านคอร์รัปชัน มากกว่าการใช้อำนาจรัฐแก้ไขปัญหาโดยฝ่ายเดียว

 

ที่สำคัญในการทำงานใกล้ชิดกับท่านในครั้งนี้ ผมได้ถามคำถามที่ติดอยู่ในใจมานานกับท่านว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงใช้วิธีใดในการทำสมาธิ ท่านตอบว่า "ก็คือวิธีที่ผมได้ถ่ายทอดมาจากพระองค์ท่านมาสอนให้คุณนั่นแหละ" ซึ่งท่านหมายถึงครั้งหนึ่งที่ผมได้มีโอกาสเป็นศิษย์ของท่านในการเข้าอบรมสมาธิของยุวพุทธิกสมาคมฯ และที่ผมถามท่านเรื่องนี้ ก็เพราะผมทราบว่าท่านได้รับคำแนะนำสั่งสอนเรื่องการทำสมาธิมาจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งการปฏิบัติธรรมของท่านตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 นี่เองที่เป็นส่วนสำคัญในการลดละกิเลศและดำรงคุณธรรมของท่าน

 

คุณวสิษฐเคยเขียนเล่าไว้ตอนหนึ่งว่า "...เคยมีคนถามผม (วสิษฐ เดชกุญชร) ว่า สิ่งที่มีค่าที่สุดที่ได้มาจาก การเป็นนายตำรวจราชสำนักประจำคืออะไร ผมตอบกลับไปโดยไม่ลังเลเลยว่า ธรรมะ..." ท่านได้รับพระราชทานหนังสือและเทปธรรมะมาให้อ่านและฟังและ บางครั้งก็ในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ทรงมี พระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระราชดำรัสแนะนำด้วยพระองค์เอง จนในที่สุดจากที่ไม่เคยคิดจะทำสมาธิ มาเป็นสนใจและปฏิบัติธรรมทุกวันอย่างจริงจัง คุณวสิษฐจึงมีแนวคิดสนับสนุนให้ข้าราชการปฏิบัติธรรมอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่เพียงเข้าวัดสวดมนต์ เพื่อให้มีสติปัญญาในการทำงานอย่างซื่อสัตย์

 

ต่อภัสสร์: ต่อเนื่องมาที่ยุคปัจจุบัน คุณวสิษฐได้นำความรู้และประสบการณ์เหล่านี้ถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่ ในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในรูปแบบงานเขียน ครั้งหนึ่งตอนที่เก็บข้อมูลทำวิทยานิพนธ์เรื่องการคอร์รัปชันในประเทศไทย ผมสนใจวิวัฒนาการนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชันในไทย จึงไปพบบทความหนังสือพิมพ์ที่คุณวสิษฐเขียนไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 อธิบายพัฒนาการของนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันในไทยเทียบกับในต่างประเทศ โดยท่านให้ข้อคิดสำคัญไว้ว่า ตราบใดที่การต่อต้านคอร์รัปชันยังใช้วิธีการโบราณ ด้วยการไล่ตามหาพยานหลักฐานมาจับคนโกง เหมือนตำรวจไล่จับโจร นอกจากโอกาสสำเร็จจะต่ำแล้ว ยังจะต้องรอให้เกิดความสูญเสียไปแล้วอีกด้วย ท่านจึงสนับสนุนให้ประเทศไทยเน้นพัฒนานโยบายด้านการป้องกันให้มากขึ้น ซึ่งเป็นแนวคิดที่ก้าวหน้ามาก เพราะในขณะนั้นแนวคิดเรื่องวิธีการป้องกันคือการปราบปรามที่เข้มแข็ง ไม่ได้ตีกรอบแยกกันอย่างที่ท่านมองเห็น

 

ต่อมาผมได้มีโอกาสพบคุณวสิษฐเพื่อสัมภาษณ์ประสบการณ์ในการต่อต้านการคอร์รัปชันของท่านและแนวคิดในเรื่องนี้สำหรับงานวิจัย ยิ่งทำให้เห็นว่าท่านเป็นบุคคลที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง ด้วยขณะนั้นท่านมีอายุมากแล้ว แต่ความจำท่านยังแม่นยำมาก สามารถอธิบายรูปแบบการคอร์รัปชันที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยได้อย่างเป็นระบบ และเสนอแนวคิดเรื่องการป้องกันการคอร์รัปชันอย่างเป็นรูปธรรม เป็นข้อมูลที่สำคัญมากในการทำความเข้าใจรูปแบบการคอร์รัปชันในประเทศไทย เพื่อการออกแบบเครื่องมือต่อต้านคอร์รัปชันที่มีประสิทธิผล

 

หลังจากนั้น ผมก็ได้มีโอกาสพบคุณวสิษฐในที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ที่ท่านเป็นประธานฯ เพื่อรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการต่างๆ ขององค์กร ในฐานะที่ท่านเป็นนักเขียนและผู้ที่ใช้เฟซบุ๊คเป็นประจำ และที่ท่านสนับสนุนแนวคิดเรื่องการเน้นการป้องกัน ท่านจึงมีความสนใจและชื่นชอบในโครงการที่เกี่ยวกับการเผยแพร่บทความและสื่อสืบสวนสอบสวนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโครงการหมาเฝ้าบ้าน ผมจำได้ว่าท่านกล่าวชื่นชมและให้กำลังใจ ทีมงานหมาเฝ้าบ้าน ทำให้ทุกคนมีแรงใจในการทำงานอย่างยิ่ง

 

จนถึงการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิฯ ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา คุณวสิษฐ ก็ยังทำหน้าที่ประธานฯ ด้วยสมองที่เฉียบคมและสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ผมหวังว่าในวันนั้นท่านคงจะดีใจที่โครงการต่อต้านคอร์รัปชันมีการพัฒนาไปสู่การป้องกัน เปิดเผย และปลูกฝัง มากกว่าเพียงการปราบปราม เหมือนที่ท่านเคยเสนอไว้นานแล้วหวังว่าท่านคงดีใจได้เห็นว่าการสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการต่อต้านคอร์รัปชันอย่างที่ท่านเคยผลักดันได้มาเป็นแนวทางหลักขององค์กรแล้ว และหวังว่าท่านคงดีใจที่ได้เห็นว่ามีคนรุ่นใหม่จำนวนมากเข้ามาทำงานสืบต่อปณิธานของท่านในการต่อสู้กับการคอร์รัปชัน

 

ต่อตระกูล: ผมและต่อภัสสร์ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวและมิตรสหายของท่าน และจะรำลึกถึงผลงาน คำแนะนำ และแนวความคิดต่าง ๆ ของท่านไว้เสมอเพื่อเตือนใจให้ดำรงตนด้วยคุณธรรมและ มีความซื่อสัตย์อยู่เสมออย่างที่ท่านแสดงให้พวกเราได้เห็นจริงมาโดยตลอด

 

 

 

 

 

 

 
 
 
 
 

#ร่วมเป็นพลเมืองตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw